วันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

กำลังจะเข้าหน้าฝนแล้ว…เช็คสภาพยางรถยนต์กันหรือยัง?

5 วิธีง่าย ๆ เช็คสภาพยางก่อนเข้าหน้าฝน





1. ตรวจเช็คอายุการใช้งานของยางรถยนต์

   โดยปกติแล้วยางรถยนต์จะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 40,000 กิโลเมตร หรือประมาณ 3 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานและสภาพถนนที่ใช้ประจำ หากคุณเป็นคนที่ขับรถเป็นประจำในเมืองที่มีสภาพถนนดี ยางอาจอยู่ได้นานขึ้นเล็กน้อย แต่หากต้องขับรถในเส้นทางที่ขรุขระ หรือมีการเบรกกระทันหันบ่อย ๆ ยางอาจเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ดังนั้น ควรหมั่นเช็ควันผลิตที่ระบุไว้บนแก้มยาง และสังเกตสภาพยางโดยรวม หากมีสัญญาณของความเสื่อมสภาพ ไม่ควรรอให้ยางเสื่อมจนถึงขั้นอันตราย ควรเปลี่ยนยางใหม่เพื่อความปลอดภัยของคุณและผู้ร่วมทาง





2. ตรวจเช็คดอกยาง

   ดอกยางเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยในการยึดเกาะถนน โดยเฉพาะในขณะขับขี่บนถนนเปียก หากความสูงของดอกยางต่ำกว่า 3 มิลลิเมตร นั่นหมายความว่าดอกยางของคุณเริ่มสึกหรอจนไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกต่อไป วิธีเช็คที่ง่ายที่สุดคือใช้เหรียญบาทเสียบลงไปในร่องดอกยาง หากเห็นขอบสัญลักษณ์พระเกศาหรือมากกว่านั้น แสดงว่าดอกยางตื้นเกินไปและควรเปลี่ยนโดยเร็ว นอกจากนี้ หากสังเกตเห็นการสึกหรอไม่เท่ากัน อาจเป็นสัญญาณของปัญหาระบบช่วงล่างหรือแรงดันลมยางที่ไม่เหมาะสม ซึ่งก็ควรนำรถไปให้ช่างผู้ชำนาญตรวจสอบเพิ่มเติม






3. มีรอยแตกลายงาหรือเปล่า?

   รอยแตกลายงาบนยางอาจดูเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่นัก แต่จริง ๆ แล้วเป็นสัญญาณของการเสื่อมสภาพของเนื้อยางที่ควรใส่ใจ รอยแตกเหล่านี้อาจเกิดจากการใช้งานเป็นเวลานาน การตากแดดบ่อย หรือการจอดรถในที่ร้อนจัดเป็นประจำ เมื่อเนื้อยางเริ่มแข็งตัวและแตกลายงา ความยืดหยุ่นของยางจะลดลง ส่งผลให้ยางเสี่ยงต่อการระเบิดหรือฉีกขาดขณะขับขี่ได้ง่าย ดังนั้น หากตรวจพบรอยแตกเล็ก ๆ บนหน้ายางหรือแก้มยาง ควรรีบพิจารณาเปลี่ยนยางใหม่ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดบนท้องถนน




4. มีรอยบวมหรือฉีกขาดไหม?

   ยางที่มีรอยบวมหรือฉีกขาดเป็นสัญญาณเตือนชัดเจนว่ายางอยู่ในสภาพที่ไม่ปลอดภัย รอยบวมมักเกิดจากแรงกระแทกอย่างรุนแรง เช่น ขับรถตกหลุมลึก หรือชนขอบฟุตบาท ทำให้โครงสร้างภายในของยางเสียหาย แม้ภายนอกจะดูไม่ร้ายแรง แต่หากโครงยางภายในขาดหรือบิดเบี้ยวก็มีโอกาสที่ยางจะระเบิดได้โดยไม่ทันตั้งตัว เช่นเดียวกัน หากพบรอยฉีกขาดไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ก็ไม่ควรใช้งานยางต่อไป ควรรีบเปลี่ยนทันทีเพื่อความปลอดภัย เพราะความเสียหายเหล่านี้ไม่สามารถซ่อมแซมได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนยางใหม่





5. เติมลมให้เหมาะสมกับการใช้งาน

   การเติมลมยางให้เหมาะสมเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยยืดอายุยางและเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ ลมยางที่อ่อนเกินไปจะทำให้ยางสึกเร็ว ใช้เชื้อเพลิงมากขึ้น และอาจทำให้ยางเกิดความร้อนสูงจนระเบิดได้ ในขณะที่ลมยางที่แข็งเกินไปจะทำให้ยางยึดเกาะถนนได้น้อยลง และเสี่ยงต่อการเสียหลักเมื่อเข้าโค้งหรือเบรกกระทันหัน คุณควรตรวจสอบแรงดันลมยางเป็นประจำอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง หรือก่อนออกเดินทางไกล และควรเติมลมตามค่าที่ผู้ผลิตรถยนต์แนะนำ ซึ่งมักจะระบุไว้บริเวณขอบประตูรถหรือในคู่มือรถยนต์ การดูแลในจุดเล็ก ๆ นี้จะช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างปลอดภัยและประหยัดมากยิ่งขึ้น


————————————



หากคุณตรวจเช็คแล้วยางรถมีสัญญาณตามที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นอายุยางที่เกินกำหนด ดอกยางสึก รอยแตกลายงา หรือแม้แต่รอยบวมเล็ก ๆ โปรดอย่ารอให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมา พวกเราพร้อมให้คุณนำรถเข้ามาเช็คหรือเปลี่ยนยางใหม่ที่ United Tire แล้วครับ เพราะเรามีบริการตรวจเช็คสภาพยางโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ พร้อมยางคุณภาพดีหลากหลายแบรนด์ เช่น Pirelli, Michelin, Continental, Yokohama, Falken และ Dunlop เป็นต้น ให้คุณสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมกับรถและงบประมาณ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่และความสบายใจในทุกเส้นทาง


————————————


👨🏻‍🔧 บริการโดยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญ

🗺️ United Tire รามอินทรา กม.1

⏰ จ.-ส. 8.00-18.00 น.


📞 สอบถามและจองคิว

• 02-970-7137 ถึง 8

• 099-245-6526 (หน่อย)

• 064-245-1556 (แซม)

• 080-924-4956 (อาร์ต)


📱 ช่องทางออนไลน์

• Line : @UNITEDTIRE  หรือคลิกที่นี่ : https://lin.ee/qIBH49F 


🗺️ แผนที่: https://maps.app.goo.gl/6phLozctSXuwjZST7


#UnitedTire #Pirelli #Michelin #Continental #Yokohama #Falken #Dunlop #ยางรถยนต์ #ยางรถ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

UNITED TIRE บริการครบเครื่องเรื่องช่วงล่างด้วยแบรนด์ชั้นนำมากมาย!

UNITED TIRE บริการครบเครื่องเรื่องช่วงล่างด้วยแบรนด์ชั้นนำมากมาย! ที่ United Tire เราเป็นศูนย์บริการติดตั้ง รวมถึงมีในส่วนของหน้าร้านที่เป็น...